พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เปิดแล้ว หมดสิ้นการรอคอยอันยาวนาน จากการหยุดเตะเพื่อหาแชมป์
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เปิดแล้ว ซึ่งน่าจะเป็นการประชุม ที่ยาวนานที่สุดของพรีเมียร์ลีก นับแต่ฟุตบอลต้องหยุดไปเพราะพิษไวรัส หนนี้หลายอย่างผ่านไป ค่อนข้างเร็วเพราะพวกบรรดาสโมสรที่เคย คัดค้านก็มีท่าทีอ่อนลง พวกเขาเริ่มมองเห็นแล้ว ว่าดื้อดึงไปก็คงไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อบุนเดสลีกา ทำให้เห็นแล้วว่าเตะได้รวมไป ถึงผลของการเทสต์นักเตะ และสตาฟฟ์ทั้ง20สโมสรจากสามรอบที่ผ่านมา มีตัวเลขคนติดน้อยมาก 17 มิถุนายนเป็นวันที่ พรีเมียร์ลีกจะ คืนสนามอีกครั้ง ไอเดียนี้มีการเสนอในที่ประชุม ซึ่งได้มติเอกฉันท์ ให้ผ่านเพราะจะทำให้ทุกทีม เตะครบเท่ากันแล้วมาเริ่มใหม่ พร้อมกันในสุดสัปดาห์ที่19-21 มิถุนายนเหมือนกัน ตอนแรกเลยมีบางสโมสร ชั้นนำที่อยากให้ยืดเวลาออกไปหน่อย ต้องการให้นักเตะได้ซ้อมและ มีเกมปรีซีซั่นรวมแล้ว 4 สัปดาห์ หมายถึงอยากให้เกมกลับมาเริ่มเตะสัปดาห์ที่ 26 มิถุนายนแต่ก็โดนปฎิเสธ ไปเพราะกลัวจะดึงเวลาให้ช้า กว่าเตะจบ ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ ยังไม่ได้บทสรุป ทั้งหมดจะยกยอดไปตัดสินกันสัปดาห์หน้าโดยวางเอาไว้ในวันพฤหัสฯที่ 4 มิถุนายน วันนั้นต้องเคลียร์ทุกเรื่อง ในเมื่อเป็นการเตะที่ปิดสนาม หรือไม่มีแฟนบอลเข้าดังนั้นก็เลยต้องเอาใจบรรดากองเชียร์ ทั้งหลาย อีกทั้งก็เป็น”เล่ห์”ของทางรัฐบาลด้วย ที่อยากให้คนอยู่กับบ้าน เฝ้าหน้าจอทีวีกัน ดังนั้นทุกคู่ จึงจะมีการถ่ายทอดสด แถมยังเป็นครั้งแรกด้วย ที่สถานีโทรทัศน์บีบีซีของอังกฤษ ซึ่งเป็นฟรีทีวีได้สิทธิ ให้ถ่ายทอด ที่ผ่านมาสกาย สปอร์ตสซึ่งต้องเสียค่าสมาชิก ครองลิขสิทธิใหญ่
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เปิดแล้ว ได้มีการเปิดเผยถึงวัน และเวลาที่จะแข่งขันออกมาแล้ว
ก็ยังฉีกธรรมเนียม ที่ผ่านมาด้วยเพราะมี การซอยคู่ออกชนิด ที่เรียกว่าถ้าใครนั่งดูอยู่บ้าน ตั้งแต่คู่แรกก็ดูได้ยาวไปร่วม 10 ชั่วโมงทีเดียว อย่างวันเสาร์จะเริ่มคู่แรก12.30น.(เวลาท้องถิ่น)ตามด้วย 15.00น.,17.30 น.และปิดท้ายที่คู่สองทุ่มซึ่ง ปกติไม่เคยมีคู่สองทุ่ม วันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์ก็เริ่ม 12.00น. ,14.00น. ,16.30น. และ19.00 น. นอกจากนั้นก็มี เกมกลางสัปดาห์ (อังคาร, พุธและพฤหัสฯ)ซึ่งมีสองเวลา ได้แก่หกโมงเย็น กับสองทุ่ม ส่วนวันจันทร์กับวันศุกร์จะเตะสองทุ่มเวลาเดียว ต้องอธิบายก่อนว่าไม่ใช่ว่าทุกสัปดาห์ จะมีเตะทุกวันแต่อาจ มีบางเกมถูก จับเตะวันไหน ก็ได้อยู่ที่การ ตัดสินใจของทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าของลิขสิทธิ ถ่ายทอดสด ส่วนเรื่องเตะจบตอนไหน ก็ยังไม่มีการตกลงแน่นอน แต่ที่เลือกกันไว้ ก็คือสัปดาห์ปลายกรกฎาคม กับต้นสิงหาคม เรื่องนี้อยู่ที่การเลือกคู่ลงของ ทีวีรวมกับความปลอดภัย เป็นหลัก ที่ประชุมก็ยังมีการพูดถึง การสร้างบรรยากาศของการถ่ายทอดสดในสนามที่ไม่มีแฟนบอลโดยพวกเขาได้อ้างถึงบางเกมของบุนเดสลีกาที่ได้จัดทำ เสียงเชียร์ปลอมๆขึ้น เพื่อให้ผู้ชมได้อรรถรส เหมือนดูเกมที่เตะปกติ ประเด็นนี้จะถูกนำมาคุยกันในประชุมครั้งหน้า ขณะเดียวกันก็มีการ ถกเรื่องจำนวนเงินที่ทุกสโมส รต้องควักจ่ายคืนเจ้าของลิขสิทธิ ทีวีราว 330 ล้านปอนด์เพราะถึงเกมกลับ มาเตะได้ มีถ่ายทอดสด แต่ด้วยการที่ไม่มีกองเชียร์ ได้เข้าอีกทั้ง ก็เป็นเกมที่เลื่อนมาจาก กำหนดเดิม ซึ่งมีระบุไว้ในสัญญา จึงทำให้ต้อง มีการคืนเงิน บางส่วนไป อย่างไรก็ตามได้ มีการต่อรองกันว่าจะขอลดเหลือ ครึ่งนึงได้ไหม นั่นก็คือ 170 ล้านปอนด์เท่านั้น เพราะแค่ไม่มีรายได้ ค่าผ่านตั๋วเข้าชม ก็เสียหายกันไม่น้อย แล้วสำหรับทุกสโมสร ไหน จะรายได้ที่หายไป ในด้านอื่นๆอีก
สนามการแข่งขัน เป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่ทำให้ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เปิดแล้ว เสียงแตกมาตลอด
แรกเริ่มทางรัฐบาลซึ่งได้ปรึกษาหน่วยงานแพทย์ กับตำรวจต้องการให้ทุกเกมเตะ”สนามกลาง”โดยจะเลือก 8-10สังเวียนด้วยเหตุผลความปลอดภัย เป็นหลัก เกรงว่า จะมีแฟนบอลของบางสโมสร ไปสนามต่อให้ไม่ได้เข้า รวมถึงบางสนามตั้งอยู่แหล่งชุมชน ก็อาจเป็นเหตุ ที่ให้เชื้อแพร่กระจาย ได้ง่ายเป็นต้น ทว่าได้มีเสียงเกินครึ่ง ที่ไม่เห็นด้วยนำมาก็พวกทีมหนีตกชั้น จนไปถึงอีกบางสโมสรแถวหน้า ที่มีเรื่องสปอนเซอร์มาเกี่ยว แน่นอนว่าเลือกได้ใครก็ อยากได้ลงสนามในบ้านตัวเองทั้งนั้น ดังนั้นจึงมีการหาทางออก ด้วยการเลือกแมตช์โดยแมตช์ ทั่วไปก็เตะบ้านใครบ้านไป ส่วนแมตช์ไหนที่มีความเสี่ยง มากเช่นเกมสำคัญอาทิลิเวอร์พูล จะได้แชมป์หรือชูถ้วยก็ต้องหา”สนามกลาง”ไว้รองรับ เป็นไปได้ที่เกมในบ้านลิเวอร์พูล ที่เหลือสี่เกมจะเตะสนามกลางทั้งหมด ที่ประชุมยังบอกด้วยว่าเบื้องต้นทางตำรวจ ได้เรียกร้องขอ 6 เกมดังนี้เตะสนามกลางประกอบด้วยแมนฯซิตี้-ลิเวอร์พูล, แมนฯซิตี้-นิวคาสเซิ่ล, แมนฯยูไนเต็ด-เชฟฯยูไนเต็ด, นิวคาสเซิ่ล-ลิเวอร์พูล, เอฟเวอร์ตัน-ลิเวอร์พูลกับอีกเกมไหนก็ตามที่ ลิเวอร์พูลจะได้แชมป์ ประเด็นนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป จะต้องคุยกันอีกที ซึ่งทางตัวแทนสโมสร หงส์แดงเองก็ออกมายืนยันว่า ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอน ของการหารือ เป็นประเด็นที่ถูกเคลียร์ กันไปก่อนแล้วโดยก่อนหน้านี้ ก็มีหลายทางออกเช่นถ้าฟุตบอลยังเตะอยู่แต่สัญญา หมดก่อนก็ถือว่าหมดไปเลย สามารถย้ายตัวได้ทันที, ต่อสัญญาพิเศษออกไป จนกว่าซีซั่นจบจนถึงให้ขึ้นอยู่กับความ สมัครใจของสองฝ่าย บางคนอาจขอแค่ค่าจ้างตามจำนวนเกมที่ลง นั่นก็แปลว่าพวกผู้เล่นที่สัญญากำลังหมดอาทิดาบิด ซิลบา, แยน แฟร์ต็องเก้น, วิลเลี่ยน, เปโดร, อดัม ลัลลาน่า, สกอตต์ ดานน์และคนอื่นๆ สามารถรับใช้ต้นสังกัดได้ไปจนกว่า ฟุตบอลเตะจบ ส่วนค่าเหนื่อยก็ว่ากันไปตามที่ระบุหรือตกลงกัน มีบางสโมสรท้ายตาราง ที่พยายามโน้มน้าวว่า ถ้าเกิดว่าฟุตบอลเตะไม่จบเพราะไวรัสกลับ มาระบาดรอบสองซึ่งก็เป็นไปได้ให้ “ยกเลิกกฎตกชั้น”กรณีพิเศษ ก็ตามที่เข้าใจกันว่าตราบใดที่วัคซีนยังไม่มาก็คงไม่มีคำว่าไวรัสหมดไป เกมจะเริ่มแข่งขันก่อน 2 คู่ ซึ่งเป็นเกมนัดตกค้าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า พบ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล อีกคู่ “สิงห์เผ่นมิดแลนด์” แอสตัน วิลลา เตะหนีตายดวลกับ “ดาบคู่” เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เพื่อให้จำนวนแมทช์การแข่งขัน กลับมาเตะเท่ากันที 29 นัด จากนั้นจะเริ่มแข่งขันตามโปรแกรม ในวันที่ 19 และ 20 มิถุนายนนี้ มีดังนี้ บ้านบอล
แอสตันวิลล่า พบ เชลซี
– สิงห์ผงาดถือว่าเป็นงานหนักมากๆที่ต้องพบกับสิงห์บลู เพราะต้องลุ้นหนีจากโซนท้ายตารางและสิงห์บลูก็เต็มที่แน่นอน เพราะยังมีโอกาสทำอันดับไปเล่นบอลยุโรป
บอร์นมัธ พบ คริสตัลพาเลซ
– บอร์นมัธยังคงต้องลุ้นหนีจากโซนล่างตารางแบบเร่งรีบซึ่งน่าจะใส่แบบเต็มๆ เมื่อเจอกับพาเลซ ที่อยู่ในโซนปลอดภัยกลางตารางแล้ว
ไบรทตัน พบ อาร์เซนอล
-ไบรทตัน เป็นอีกทีมที่ต้องการแต้มเพื่อหนีจากท้ายตาราง แต่คงรอดยากเมื่อเจอปืนใหญ่ ที่มีขุมกำลังอันแข็งแกร่งกว่าอย่างมาก
เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล
– เมอร์ซี่ไซด์ นัดนี้คงต้องอัดกันหนักๆแน่นอน เพราะทอฟฟี่คงไม่ยอมให้หงส์แดงได้แต้มไปง่ายๆ เพื่อจะเข้าใกล้แชมป์ได้รวดเร็ว
แมนเชสเตอร์ซิตี้ พบ เบิร์นลี่
– เรือใบสีฟ้าที่ไม่มีลุ้นแชมป์แล้วในฤดูกาลนี้ คงเล่นด้วยสปิริทอย่างสูง ในการเจอเบิร์นลี่ที่ทำอันดับได้ดีอยู่กลางตาราง เรือใบคงผ่านได้ไม่ยากนัก
นิวคาสเซิล พบ เชฟฟิลยูไนเต็ด
– อันดับและคะแนนค่อนข้างต่างกันมาก แต่สาลิกาอาจมีดีกว่าทั้งเล่นในบ้านและกำลังใจที่ดีที่จะได้ เจ้าของสโมสรคนใหม่ แต่ดาบคู่คงยากที่จะปล่อยให้ผ่านไปได้ซึ่งปีนี้ทำผลงานได้ดีมาก
นอริช พบ เซาแธมป์ตัน
– นกขมิ้น คงไม่น่าอยู่รอดในลีกสูงสุดฤดูกาลนี้ แม้จะทำผลงานช่วงต้นได้ดีมาก แต่ด้วยศักยภาพทีมและความกดดันจึงไม่น่าผ่าน นักบุญไปได้
สเปอร์ พบ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
– ถือเป็นคู่บิ๊กแมตซ์ประจำสัปดาห์เลยสำหรับไก่เดือยทอง ปะทะ ปีศาจแดง อันดับผีแดงอาจดีกว่าแต่ สเปอร์เล่นในบ้านคงไม่ยอมให้ง่ายแน่นอน
วัตฟอร์ด พบ เลสเตอร์
– แตนอาละวาด ถือว่าโชคไม่ดีต้องมาเจอ จิ้งจอกสยามก่อนเลย เพราะนอกจากต้องเล่นเต็มที่เพื่อลุ้นหนีจากท้ายตารางก็ยังมีปัญหานักเตะภายในทีมอีกด้วย น่าจะรอดจากเงื้อมมือเลสเตอร์ที่ลุ้นบนหัวตารางยากหน่อย
เวสต์แฮม พบ วูล์ฟแฮมตัน
– เดอะแฮมเมอร์เป็นอีกทีมที่ต้องดิ้นรนออกจากท้ายตาราง เจอหมาป่านัดนี้คงยากหน่อยด้วยความแข็งแกร่งของทีมและผู้เล่นยังดูห่างกันมาก
กำหนดแข่งขัน(ตามเวลาประเทศไทย)
วันศุกร์ 02:00 วันเสาร์ 18:30 น. 21:00 น. 23:30 น. และ 02:00 น. วันอาทิตย์ 18:00, 20:00, 22:30, 01:00 น. วันจันทร์เวลา 02:00 น
เกมกลางสัปดาห์: อังคาร, พุธ และพฤหัสบดี เวลา 00:00 น. และ 02:00 น
สโมสรและนักเตะในพรีเมียร์ลีก ต้องทำตามแผนงาน การดำเนินงานทางการแพทย์ หรือ โปรโตคอลอย่างเป็นทางการ
ถูกส่งให้กับนักฟุตบอล และผู้จัดการทีมทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีก ไปเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา เพื่อเดินหน้ากับโปรเจคท์รีสตาร์ทซีซั่น
1. การตรวจคัดกรองสุขภาพ โดยผู้เล่นจะได้รับการแจ้งให้ลงทะเบียน ส่วนกลาง ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ภายใต้ความยินยอมของข้อตกลงระหว่างนักฟุตบอล กับ สมาคมนักฟุตบอลอังกฤษ
2. นักฟุตบอลจะลงทำการฝึกซ้อม ในเวลาจำกัดคนละไม่เกิน 75 นาที
3. มาตรการควบคุมสุข อนามัยส่วนบุคคลอย่างพิถีพิถัน และการใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล สำคัญที่สุดก็คือ จำกัดพื้นที่ของแต่ละคน
4. ภายใต้กฎอันเข้มงวด นักบอลจะไม่สามารถเดินทางมาสนามซ้อม ร่วมกับใครทั้งสิ้น และไม่สามารถกลับได้กลับใครด้วยเช่นกัน นักบอลจะต้องทำความสะอาดรถตัวเองเป็นประจำ โดยไม่ใช่ยวดยานพาหนะของทีม และห้ามใช้ขนส่งสาธารณะเด็ดขาด
5. มีการประเมินความเสี่ยง และข้อควรระวัง เกี่ยวกับนักกีฬา ที่มีปัญหาสุขภาพ อาทิเช่น โรคหอบหืด รวมไปถึงความกังวล เกี่ยวกับเรื่องของเชื้อชาติอื่นๆ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่า ชายกับหญิงผิวสีในอังกฤษ กับ เวลส์ เสียชีวิตมากกว่าคนผิวขาวในอังกฤษ เพื่อป้องกันอาการเจ็บป่วยร่วม