ยุครังนิก ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง

ยุครังนิก

ยุครังนิก เข้ารับตำแหน่ง โดยไม่ปฏิเสธหากจะคุมทีมต่อไปยาวๆ

ยุครังนิก รังนิก วัย 63 ปี เข้ารับตำแหน่งแทนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ที่ถูกปลด โดยรังนิกจะมีสัญญา 6 เดือนและจากนั้นจะขยับไปเป็น ที่ปรึกษาของทีมเป็นเวลา 2 ปี อย่างไรก็ตาม ล่าสุด รังนิก ยอมรับว่าตนเองไม่ปิดโอกาส ที่จะรับงานในฐานะโค้ช แมนฯยูไนเต็ดตัวจริงถาวรไปเลย

ยุครังนิก

หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ผมคงจะทำงานต่อไปเหมือนกับที่เคยเป็นที ไลป์ซิก ผมอาจจะแนะนำให้พวกเขาทำงานต่อกับผมไปอีกปี เป็นที่แน่ชัดว่าผู้คนพูดถึงเรื่องนี้เกี่ยวกับสัญญา 6 เดือน แต่ผมไม่เคยพูดว่า อะไรจะเกิดขึ้นในช่วงหน้าร้อนนี้ ตอนนี้ผมมุ่งมั่นในฐานะโค้ช และคงต้องรอดูกันต่อไป ตอนนี้เรามีงานที่จะต้องโฟกัสในการเอาชนะในนัดที่จะถึง

นอกจากนี้ รังนิกยังเผยถึงการจะต้องร่วมงานกับ คริสเตียโน โรนัลโด อีกว่าจะยังฟิตพอที่จะเล่นฟุตบอลเพรสซิ่งในสไตล์ของ รังนิกได้อยู่ ยุครังนิก เบนิเตซกลุ้ม

คุณอาจจะต้องปรับแนวทางฟุตบอล ให้เข้ากับนักฟุตบอลที่มีอยู่ โรนัลโด ในวัย 36 ปี ยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากๆ ในฐานะนักเตะอาชีพ ผมไม่เคยเห็นใครที่ยังรักษาสภาพร่างกายได้ขนาดนี้เลย
โค้ชจอมเก๋า ระบุอีกว่าก่อนรับตำแหน่งได้พูดคุยกับ โซลชาร์ นานกว่าชั่วโมงครึ่ง และพูดคุยกับ ไมเคิล คาร์ริก โค้ชขัดตาทัพที่เพิ่งลาออกอีกด้วย

ผมได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับทั้งคู่ โอเล่ ใจกว้างมากๆ และให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์กับผม กับไมเคิล ผมพยายามโน้มน้าวให้เขาทำงานต่อไป แต่ท้ายที่สุดผมก็ต้องยอมรับการตัดสินใจ ผมโอเคกับสต๊าฟฟ์โค้ชชุดปัจจุบันเพราะ ผมเองก็ต้องการประสบการณ์ ของพวกเขา ในการทำงานกับนักเตะด้วย

ความเคลื่อนไหวหลังจากที่ ปิศาจแดงปีศาจแดง ทีมยักษ์ใหญ่แห่งสึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศแต่งตั้ง ราลืฟ รังนิก อดีตเทรนเนอร์ของ แอร์เบ ไล์ซิก เป็นโค้ชชั่วคราว ด้วยสัญญาจนจบฤดูกาลนี้ พร้อมรับตำแหน่งที่ปรึกษาไปอีก 2 ปี

 

นักเตะหลายคนน่าจะได้พิสูจน์ตัวเองแบบเต็มๆ ในยุคของรังนิก

การเข้ามาของ ราล์ฟ รังนิก ที่ชื่นชอบนักเตะที่มีความขยัน เล่นนัดรุกได้ดี น่าจะทำให้นักเตะของปิศาจแดงหลายคน มีโอกาสได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ยุครังนิก

เริ่มต้นที่ตำแหน่งแบ็กขวา ดิโอโก ดาโลต์ ฟูลแบ็กดีกรีทีมชาติโปรตุเกส ที่แทบจะไม่ได้โอกาสลงสนามภายใต้การคุมทีมของอดีตโค้ชอย่าง โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ คงถึงเวลาแล้วที่เขา จะได้ฉายแสงสักที ด้วยสไตล์การเล่นนัดรุกดุดัน ต่างจาก อารอน วาน-บิสซากา แบ็กขวาตัวจริงที่มีจุเด่นในการเล่นนัดรับ แถมพักหลังยังฟอร์มไม่ค่อยดี ทั้งนัดรุกและนัดรับอีกต่างหาก ดังนั้นเชื่อว่า ดาโลต์ น่าจะได้พิสูจน์ตัวเองแบบเต็มๆ ในยุคของรังนิก

ยุครังนิก

คนที่ 2 คือ จาดอน ซานโช รังนิกเคยพูดถึงซานโช เมื่อปี 2020 ตอนที่ยังเป็นนักเตะของดอร์ทมุนด์ ว่า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซานโช จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่ร้อนแรงที่สุดในตลาดนักเตะ ซึ่งมันก้เป็นเรื่องจริงเพราะสุดท้ายเขาก็ย้ายมาอยู่กับ ปีศาจแดง ด้วยค่าตัวมหาศาล แถมในการให้สัมภาษณ์ล่าสุด

รังนิกยังเผยเองด้วยว่าเคยพยายามคว้าตัว ซานโช ตอนที่ตัวเองยังเป็นโค้ชของไลป์ซิก และตอนนั้น ซานโช อายุแค่ 17 ปี แต่สุดท้ายนักเตะ ก็เลือกย้ายจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปอยู่กับดอร์ทมุนด์ ดังนั้นเชื่อได้เลยว่า ซานโช จะเป็นหนึ่งในคีย์แมนคนสำคัญของ ปิศาจแดง ของ ราล์ฟ รังนิก อย่างแน่นอน

คนที่ 3 คือ เฟร็ด มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ที่ฟอร์มเอาแน่เอานอนไม่ได้ บางวันก็ดีผิดหูผิดตา บางวันก็ทำพลาดจนแฟนบอลหัวเสีย หรืออย่างนัดล่าสุดกับ อาร์เซนอล ก็ได้รับทั้งคำชมและคำด่า เพราะดันทำเรื่องดีและแย่ ในนัดเดียวกันซะอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า เฟร้ด จะยังคงยึดตำแหน่งตัวจริง ภายใต้การคุมทีมของรังนิก ได้อย่างแน่นอน ด้วยความขยันมุ่งมั่นทุ่มเท ช่วยได้ทั้งนัดรับและนัดรุกนั่นเอง

คนที่ 4 คือ ดอนนี ฟาน เดอ เบค มิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่เจอช่วงเวลาอันยากลำบาก ภายใต้การคุมทีมของ โซลชาร์ แม้ว่าจะทำได้ดีทุกครั้งเมื่อมีโอกาสอันน้อยนิดในการลงสนามก็ตาม

แต่เชื่อว่าในยุคของรังนิก จะเป็นเวลาที่ ดอนนี ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ด้วยสไตล์การเล่นอันดุดัน เข้าบอลไม่กลัวเจ็บ แถมยังมีการจ่ายบอล แบบเหนือชั้นเป็นอาวุธลับ เล่นบอลรวดเร็ว เล่นได้หลากหลายตำแหน่ง ขยันไล่บอล สอดเข้าเขตโทษได้ดี ที่น่าจะเข้ากับแผนการเล่นของรังนิก ได้ไม่ยาก บ้านบอล

Author: admins