แฟร์รานเบิ้ล เหตุการณ์ของ อาร์เซน่อล ดูเหมือนจะกู่ไม่กลับเสียแล้วข้างหลังบุกไปโดน แมนฯ ซิตี้ กระหน่ำเสียหาย 0-5
แฟร์รานเบิ้ล เหตุการณ์ของอาร์เซน่อล ดูเหมือนจะกู่ไม่กลับเสียแล้วข้างหลังบุกไปโดน แมนฯซิตี้ กระหน่ำเสียหาย 0-5 โดยจะต้องเล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกจากใบแเดงของ กรานิต ชาคา ทำให้ผ่านสองเกมกองทัพ “ปืนใหญ่”
ยังยิงคนไหนกันไม่ได้แถมโดนคู่ต่อสู้กระแทกไปถึง 8 ลูกพอๆกับ นอริช จมอยู่รองบ๊วยของตาราง ส่วนทีม “เรือใบสีฟ้า” คว้าชัยสองนัดหมายรวดขยับขึ้นไปรั้งผู้นำฝูงชั่วคราว กาชิงชัยฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ทุกวันเสาร์ที่ 28 เดือนสิงหาคม 2564
ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ระหว่าง แมนเชสเตอร์ซิตี้ เจออาร์เซน่อล แมนฯซิตี้ของ เป๊ป เกมนี้ส่ง แจ็ค กรีลิช กองกลางรายใหม่ลงเป็นสามแนวรุกร่วมกับ กาเบรียล เชซุส และก็ เฟร์ราน ตอร์เรส ส่วนอาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า
ส่ง มาร์ติน โอเดการ์ด ลงเปิดฉากตัวจริงรอทำเกมช่วยเหลือ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ที่ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าเพียงผู้เดียว ครึ่งแรกเกมดำเนินมาเพียง 7 นาทีเท่านั้น แมนฯซิตี้ที่ขึงบุกใส่มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0
จากโอกาสครั้งแรก กาเบรียล เชซุส เปิดจากริมเส้นฝั่งขวาให้ อิลคาย กุนโดกัน ขึ้นโหม่งที่เสาไกลจ่อๆเข้าประตูไป หลังจากนั้น นาทีที่ 12 สกอลร์ไหลห่างเป็น 2-0 อย่างรวดเร็ว เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษ เซดริก โซอาเรส สกัดบอลพลาดเลยไปถึง
แฟร์รานเบิ้ล แฟร์ราน ตอร์เรส หลุดมาซัดโล่งๆไม่เหลือ แม้ผู้ตัดสินจะเช็ก วีเออาร์ จากจังหวะ การทำฟาวล์ของแข้งอาร์เซน่อล ในกรอบเขตโทษแต่ยังยืนยันให้เป็นประตู บ้านบอล
ต้องเล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรกจากใบแเดงของ กรานิต ชาคา ทำให้ผ่านสองเกมกองทัพ “ปืนใหญ่”
แฟร์รานเบิ้ล เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 35 สถานการณ์ของ “ปืนใหญ่” มาย่ำแย่ลงไปอีกต้องเหลือผู้เล่น 10 คน หลังจากผู้ตัดสินแจกใบแดงโดนตรงให้ กรานิต ชาก้า ไล่ออกจากสนามไป จากจังหวะเปิดปุ่มใส่ แฟร์ราน ตอร์เรส แบบรุนแรง สนใจฟานเดอเบ็ค
ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 43 แจ็ค กรีลิช กระชากขึ้นมาทางฝั่งซ้ายลากเข้าเขตโทษแล้วไหลถวายพานให้ กาเบรียล เชซุส ยืนตวัดยิงจ่อๆเข้าประตูไปให้แมนฯซิตี้ นำอาร์เซน่อล เป็น 3-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังอาร์เซน่อล เริ่มด้วยการส่ง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ลงมาเล่นแทน บูคาโย่ ซาก้า เพื่อมาทดแทนตำแหน่งของ กรานิค ชาคา ส่วนแมนฯซิตี้ ส่ง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ลงมาแทน ไคล์ วอล์คเกอร์
สกอร์หนีเป็น 4-0 ในนาทีที่ 53 แฟร์ราน ตอร์เรส ไหลบอลย้อนให้ โรดรี้ วิ่งมาปั่นเล่นทางด้วยขวาหน้าเขตโทษ แฟร์รานเบิ้ล ส่งบอลเสียบเสาสองเข้าประตูไป นาทีที่ 68 เจ้าถิ่นหวิดได้ลูกที่ 5 เมื่อ ริยาด มาห์เรซ เปิดไปที่เสาสองให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดมาโขกจ่อๆ
แต่ แบรนด์ เลโน่ โชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดออกหลัง จนกระทั่งนาทีที่ 84 แมนฯซิตี้ได้ประตูที่ 5 จนได้ ริยาด มาห์เรซ วางบอลเข้าเขตโทษให้ แฟร์ราน ตอร์เรซ หลุดมาโขกเน้นๆไม่เหลือ เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯซิตี้เปิดรัง
ถล่มอาร์เซน่อล 5-0 คว้าชัยสองนัดรวดขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราว ส่วน “ปืนใหญ่” ยังยิงใครไม่ได้แถมโดนคู่แข่งกระทุ้งไปถึง 8 ลูกเท่ากับ นอริช จมอยู่รองบ๊วยของตาราง รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส – ไคล์ วอล์คเกอร์ (โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ น.46), รูเบน ดิอาส, อายเมอริค ลาป๊อร์กต์ , ชูเอา กานเซโล่ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา (ราฮีม สเตอร์ลิง น.58), โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน – กาเบรียล เชซุส (ริยาด มาห์เรซ น.61), เฟร์ราน ตอร์เรส, แจ็ค กรีลิช
แฟร์รานเบิ้ล อาร์เซน่อล (5-4-1) : แบร์นด์ เลโน่ – คาลัม แชมเบอร์ส, ร็อบ โฮลดิ้ง, เซอัด โคชาซินัค, คีแรน เทียร์นีย์, เซดริก โซอาเรส – กรานิต ชาคา, เอมิล สมิธ โรว์, มาร์ติน โอเดการ์ด, บูคาโย่ ซาก้า (โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ น.46) – ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง (อเลซองดร์ ลากาแซตต์ น.59)